Netflix หนังน่าดู
The Internship คู่หูสุดป่วนไปฝึกงานที่กูเกิ้ล
หนังในดวงใจของเพื่อนๆ มีเรื่องอะไรกันบ้าง สำหรับแอดมินนั้น The Internship ถือว่าติดท็อปต้นๆ ของแอดมิน Cutebix เลย โดยทางเน็ตฟลิกซ์ก็ได้นำเข้ามาแล้วทำให้แอดมินกลับมาดูอีกครั้งแล้วอยากมาแนะนำ Netflix หนังน่าดู กับหนังดังกล่าวนี้มากๆ
The Internship (2013) เนื้อเรื่องและจุดที่ชอบ
เป็นเนื้อเรื่องของคู่ซี้ที่เป็นนักขายที่เก่งมากๆ อย่าง “บิลลี่” ชายร่างสูงที่เก่งเรื่องพูด งานขายอย่างมาก กับเพื่อนซี้ของเขาอย่าง “นิค” ชายผมบลอนด์ที่ยิงมุกเก่งและไหลลื่นเก่งไม่แพ้กัน เมื่องานขายตรงมันหมดยุคสมัยทำให้พวกเขาตกงาน บิลลี่ที่เห็นต่างจึงพยายามหางานทำแต่ก็ไม่มีงานไหนที่ถูกใจ จนได้สะดุดตากับไอค่อน Google จึงหาข้อมูลและพบว่าตอนนี้กูเกิ้ลนั้นกำลังเปิดรับสมัครเด็กฝึกงานที่ต้องเข้าไปแข่งกันกันแบบทีม ทีมเดียวที่ชนะจะได้รับเลือกเป็นพนักงานประจำ ซึ่งในนั้นก็เต็มไปด้วยเด็กหัวกะทิจากโรงเรียนดังมากมาย มีเพียงเขาทั้งสองที่อายุมากโดดเด่นออกมา แถมยังเป็นเศษเหลือจนต้องจับกลุ่มกับคนที่ไม่มีใครเอา ทีนี้พวกเขาจะทำยังไงต่อไป
ไม่มีคำว่าแก่เกินสำหรับเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ประโยคที่ว่า “ไม่มีใครแก่เกินเรียน” มันใช้ได้จริงๆ และเรื่องนี้สอนให้รู้ มันไม่ใช่แค่โชคเท่านั้น แต่ตัวเอกทั้งสองอย่างบิลลี่และนิคนั้นไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง ไม่ได้ปิดกั้นโอกาส พวกเขาพร้อมที่จะยอมรับความคิด ความเห็นต่างของคนอื่นอยู่เสมอ อีกทั้งยังพยายามที่จะเรียนรู้สิ่งที่ตัวเองไม่เคยรู้จักหรือถนัดมาก่อนเลย ลองคิดดูสิถ้าเราต้องย้อนกลับไปในโลกที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต เราก็ต้องปรับตัวเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นจริงไหม
ความเครียดไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
ในเรื่องนั้นไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบิลลี่หรือนิคเองก็ตาม พวกเขามักจะชอบเข้าหาคนและบอกคนอื่นอยู่เสมอว่าอย่าไปเครียด เพราะการเครียดหรือหมกมุ่นอยู่กับปัญหา รวมทั้งการคิดลบไม่ได้ช่วยทำอะไรให้ดีขึ้น บางทีเราก็ต้องปล่อยวาง ผ่อนคลายตัวเองโดยการไปออกไปพัก ออกไปเที่ยว เอาตัวเองไปอยู่ในที่ใหม่ๆ บรรยากาศใหม่ๆ แล้วเราอาจจะพบความสนุก ความสุขในชีวิต จนทำให้หัวโล่งจนเกิดไอเดียหรือวิธีแก้ปัญหาก็เป็นได้
บนโลกนี้มีพื้นที่สำหรับความผิดพลาด
ใครว่าบนโลกนี้ไม่มีพื้นที่ให้คนที่ทำผิดพลาดกัน บอกเลยว่ามันไม่จริงหรอก มันอยู่ที่เราอยากได้รับโอกาสจากใคร จากที่ไหน และเราพร้อมจะปรับตัว เรียนรู้ แก้ไขสิ่งต่างๆ ให้มันดีขึ้นไหม เพราะบิลลี่นั้นเขาไม่ชอบคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีเลย สุดท้ายเขาก็เรียนรู้จนคล่อง ถึงแม้เขาจะทำพลาดไป จนทุกคนผิดหวังและท้อไปหมด แต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็ให้โอกาสและต้องการให้เขาเข้าร่วมทีม มาฮึดสู้กันอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับเรื่องนี้ แอดมินมองว่านอกจากจะเป็นหนังคอมเมดี้ ฟีลกู้ด ดูได้กับครอบครัว เพื่อนหรือคนรักแล้วนั้น ยังถือว่าเป็นหนังที่เยียวยาจิตใจคนดู อีกทั้งยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เราอยากผลักดันตัวเอง หรือฮึดสู้ขึ้นมาสุดๆ มีใครชอบหนังเรื่องนี้เหมือนแอดมินบ้างไหม?