แอนิเมชันไทย พล็อตดี
ดังไกลถึงต่างประเทศที่ควรดู
แอนิเมชันไทย ก็ทำถึงจนดังไปถึงต่างประเทศเหมือนกันนะ ดั่งคำที่ว่าเด็กไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก แอนิเมชันไทยก็เช่นกัน เรามาย้อนวัยกันดีกว่าเผื่อบางคนอาจจะพลาดหรือไม่ได้ตามแนวแอนิเมชันเท่าไหร่ บอกเลยว่าที่ทางเราคัดมานั้น ล้วนเป็นไทย 100% มีการผสมผสานนิทาน เรื่องเล่า รวมถึงวรรณคดีให้น่าติดตามด้วย
ครุฑ มหายุทธ หิมพานต์ (2018)
แอนิเมชั่นยุคใหม่ที่สวยทั้งภาพและไลน์แอคชันทำออกมาได้ดี กับเรื่องราวก่อนมนุษย์ครองพิภพ ย้อนกลับไปในยุคที่เหล่าสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ต่างก็ทำสงครามเพื่อแย่งชิงอาณาจักรกัน ณ เมืองอโยธา โดยมี “พญาวัชรครุฑ” เป็นทหารเอกคอยปกป้องเมืองอยู่นั้นได้ถูก “รากษส” เผ่าพันธุ์อันแสนดุร้ายยกไพร่พลจำนวนมากเข้ามาตีประชิดเมือง ทำให้พญาวัชรครุฑและเหล่าพลทหารต้องตีฝ่าวงล้อมไปขอความช่วยเหลือจากเหล่าสัตว์พิสดารในป่าหิมพานต์ ไม่ว่าจะเป็นคชสีห์ นรสิงห์ รวมไปถึงกินนร ที่เคยเป็นปรปักษ์กัน เพื่อมากอบกู้เมืองอโยธยา ศึกอันยิ่งใหญ่จึงเกิดขึ้น
9 ศาสตรา (2018)
9 ศาสตราเป็นเรื่องที่ดังมากและบูมสุดๆ แถมยังได้รับรางวัลอีกด้วย โดยจะเป็นเรื่องราวการผจญภัยของ “อ๊อด” เด็กหนุ่มที่มีชะตาให้เป็นส่วนหนึ่งในการกอบกู้อาณาจักรรามเทพนคร ซึ่งเป็นแผ่นดินเกิดของเขาให้รอดพ้นจากอำนาจของ “เทหะยักษา” เจ้าแห่งยักษ์ที่เข้ามายึดครองอาณาจักร โดยอ๊อดได้ฝึกฝนวิชาอย่างมุ่งมั่นและร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้มวยไทยที่เคยหายสาบสูญไปจากครูมวยอันดับหนึ่งของแผ่นดิน แต่ก่อนที่จะเข้าสู้กับเทหะยักษาได้นั้น เขาจำเป็นต้องไปทำภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการนำสุดยอดศาสตราวุธ 9 ศาสตราไปมอบให้องค์ชายรัชทายาทแห่งรามเทพนครเพื่อใช้ในการกอบกู้อาณาจักรนั่นเอง
ยักษ์ (2012)
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหุ่นกระป๋องที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวรรณคดีไทยเรื่อง “รามเกียรติ์” โดยเรื่องราวของหุ่นหนุมานปะทะกับหุ่นรบยักษ์ ทว่าในศึกครั้งสุดท้ายนั้นทำให้ทั้งคู่โดนแรงกระแทกจนความจำเสื่อม แถมยังมีโซ่คล้องกันไว้ ทำให้ทั้งสองได้ร่วมผจญภัยไปด้วยกันอย่างไม่มีทางเลือก พร้อมกับหาวิธีเอาโซ่ออกจากกันและกัน ระหว่างทางนั้นล้วนเต็มไปด้วยความสนุก ขบขัน และมิตรภาพดีๆ ทำเอาคนดูต่างยิ้มไปกับความป้ำๆ เป๋อๆ ของตัวละครที่ต่างลืมสิ้นตัวตนทั้งคู่
นาค (2008)
ตามชื่อเรื่องทุกคนคงเดาได้อยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องราวของผีสาวนางนาคในตำนาน ทว่าแอนิเมชันนี้ได้ทำต่างออกไป เพราะเรื่องนี้จะให้นางนาคเป็นวีรสตรีเพื่อทำภารกิจปราบผีร้ายที่คิดจะยึดครองโลก เรื่องนี้อาจทำรายได้ไม่ดีเท่าไหร่เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ แต่ถือว่าเป็นใบเบิกทางและเด็กๆ ก็ชอบกันเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นหนังแล้ว เรื่องราวในหนังยังถูกนำมาสร้างเป็นการ์ตูนซีรีส์ภาคย่อย ฉายทางช่อง 3 อีกด้วย
ก้านกล้วย (2006)
เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักการ์ตูนเรื่องก้านกล้วยแน่นอน เพราะเป็นช้างน้อยน่ารักที่เปิดตัวมาให้เห็นบ่อยๆ ในโฆษณาของ Workpoint ก่อนจะทำเป็นแอนิเมชันเข้าโรง โดยเรื่องนี้ก็ได้รับแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจาก พงศาวดาร ว่าด้วยลักษณะคชลักษณ์ของช้างทรงของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนั่นเอง ซึ่งเรื่องราวจะเป็นการที่ก้านกล้วยอยู่กับแม่ เขาใฝ่ฝันว่าจะตามหาพ่อให้เจอจนได้ถูกจับและพลัดหลงไปอยู่กับมนุษย์ เมื่อเติบใหญ่ก็ได้เข้าไปในวังเพื่อคัดเลือกช้างเคียงคู่พระบาท จนเขาก็ได้รู้ว่าพ่อของเขานั้นไม่ได้ทิ้งแม่ไปเพราะจริงๆ แล้วพ่อเขาคือช้างของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั่นเอง นอกจากอิงประวัติศาสตร์ไทยแล้ว เนื้อเรื่องระหว่างทางก็ยังน่ารักมากๆ จนถึงกับมีการทำภาคต่อมาแล้ว
แอนิเมชันไทยนั้นไม่ได้มีเพียงที่เข้าโรงเท่านั้น การ์ตูนสั้น หรือการ์ตูนซีรีส์ที่ทำฉายช่องหลากสีก็ยังมี อย่างเช่นการ์ตูนในความทรงจำของเราอย่าง จ๊ะทิงจา ปังปอนด์ โฟร์แองจี้ และอื่นๆ อีกมาก ทำให้เห็นว่าของไทยเราก็มีศักยภาพไม่แพ้ใคร ทั้งในเรื่องของภาพ เสียง สี และพล็อตเรื่อง ใครที่ยังไม่เคยดูแอนิเมชันที่เราคัดมา แนะนำให้ลองดูแล้วจะชอบและภูมิใจในคนไทยด้วยกันแน่นอน