หนังระทึกขวัญ รับโทรศัพท์แล้วชีวิตคุณจะเปลี่ยนไปตลอดกาล จะรับไหม

หนังระทึกขวัญ รับโทรศัพท์แล้วชีวิตคุณจะเปลี่ยนไปตลอดกาล จะรับไหม

หนังระทึกขวัญ

รับโทรศัพท์แล้วชีวิตคุณจะเปลี่ยนไปตลอดกาล จะรับไหม?

     หนังระทึกขวัญ น่าดู ไม่ใช่แนวสยองขวัญจนน่าผวาขนหัวลุก แต่รับประกันได้เลยว่าทำให้คุณคอยลุ้นตลอดการดูภาพยนตร์แน่นอน หากรับโทรศัพท์แล้วชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป คุณจะรับสายนั้นไหม? แล้วถ้ามันเกี่ยวข้องกับความเป็นและความตายล่ะ หนังสองเรื่องที่ทาง Cutebix จะแนะนำนั้นเป็นคนละพล็อตกันโดยสิ้นเชิง แต่รับรองว่าสนุกน่าติดตามสุดๆ

     หนังระทึกขวัญ รับโทรศัพท์แล้วชีวิตเปลี่ยน

     พล็อตที่ไม่ได้มีให้เห็นเท่าไหร่ เป็นพล็อตเกี่ยวกับโทรศัพท์ โดยทั้งสองเรื่องที่ทางเราคัดมานั้นจะมีความต่างตรงที่ว่า เรื่องนึงจะเป็นโทรศัพท์บ้าน ส่วนอีกเรื่องจะเป็นตู้โทรศัพท์สาธารณะ ซึ่งบอกเลยว่าสนุกไม่แพ้กัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น มาดูกันเลย

     Karthik Calling Karthik (2010) กาทิกกำลังโทรหากาทิก

     ตัวเอกของเราอย่าง กาทิก เป็นพนักงานรับเหมาก่อสร้าง ทำหน้าที่ดูแลสัญญาและการเงิน โดยมีนิสัยเนิร์ดๆ เก็บตัว และไม่มีความมั่นใจ อันเนื่องมาจากปมวัยเด็กของตัวเขาเอง ที่มักจะโดนพี่ชายแกล้งอยู่บ่อยๆ แต่พอฟ้องแม่ แม่ก็ดันไม่สนใจ จนต่อมาพี่ชายได้พลัดตกบ่อน้ำตาย กาทิกที่ไม่รู้ว่าจะช่วยยังไงเพราะเป็นเด็กก็เลยรู้สึกผิด จนกลายเป็นปมฝังใจ ทำให้ตัวเขาเองมักถูกคนรอบข้างเอาเปรียบ โดยเฉพาะเจ้านายของเขา แต่ที่เขายังไม่ลาออกไปไหนก็เพราะ โชนาลี เพื่อนร่วมงานสาวสวยที่ไม่เคยเหลียวมองเขาเลย เขามักจะเขียนอีเมลดราฟท์ไว้ถึงโชนาลีอยู่เสมอแต่ก็ไม่กล้าส่งไป

     ประเด็นมันอยู่ที่วันหนึ่ง เขาได้ปาโทรศัพท์บ้านทิ้งเพราะหงุดหงิด จนต้องออกไปซื้อมาใหม่ วันนั้นเป็นวันที่เลวร้ายเพราะกาทิกได้ทะเลาะกับหัวหน้าจนโดนไล่ออก เขาเสียใจมากจนจะกินยาฆ่าตัวตาย ทว่าโทรศัพท์เครื่องใหม่นั้นกลับดังขึ้น ซึ่งปลายสายนั้นก็คือ กาทิก อีกคน โดยมีบุคลิกที่แตกต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง กาทิกอีกคนให้สัญญาว่าจะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตเขาให้ดีขึ้นกว่าเดิม แล้วถ้าหากเป็นคุณล่ะ คุณจะยอมเชื่อแล้วทำตามหรือไม่ ใครสนใจสามารถดูได้ผ่านทาง Netflix เลยสำหรับหนังอินเดียเรื่องนี้


     Phone Booth (2002) วิกฤตโทรศัพท์สะท้านเมือง

     ตัวเอกอย่าง สตู เชพเพิร์ด นักประชาสัมพันธ์ที่ขายข่าวเสียๆ หายๆ ของเหล่าดาราให้กับสื่อต่างๆ ที่มีนิสัยกะล่อน ปลิ้นปล้อน ทำให้มีหลายคนไม่ชอบเขาเยอะอยู่พอสมควร จนอยู่มาวันหนึ่งระหว่างงาน สตูได้แวะโทรศัพท์ตู้สาธารณะเพื่อโทรหาชู้รัก แพม ระหว่างพูดคุยกันอยู่ก็ได้มีคนมาส่งพิซซ่ากับเขา ทำให้เขาอารมณ์เสียแล้วคุยกับแพมต่อ จนวางสายไป ก็ได้มีสายโทรกลับมาตู้สาธารณะเครื่องเดิม พอเขารับก็กลับได้รับคำถามที่ว่า “ทำไมถึงไม่รับพิซซ่านั้นไป” แต่สตูก็ไม่ได้สนใจแล้วจะวางแต่ ทว่าเขากลับโดนขู่ว่า ถ้าวางสาย นายตายแน่ พร้อมกับบอกรูปพรรณ เครื่องแต่งกาย รวมถึงบอกว่าจะฟ้องภรรยาสตู เคลลี่ ว่าสตูมีชู้ จากนั้นก็ตัดสาย พอรู้แบบนั้นเขาจึงล่กไปหมด ทำอะไรไม่ถูกแล้วเฝ้ารอการโทรกลับของปลายสายปริศนา

     ในที่สุดสายนั้นก็โทรกลับมา พร้อมทั้งให้สตูบอกความจริงกับแพมว่าจริงๆ แล้วเขามีภรรยาอยู่แล้ว และบอกต่อว่าให้โทรหาเคลลี่ ว่าเขามีชู้ชื่อแพม ซึ่งสตูก็ไม่ยอมทำแล้วจะวางสาย ทำให้ปลายสายไม่พอใจแล้วขู่ว่าจะยิงสตูทิ้ง สตูก็ไม่ได้เกรงกลัวอะไร เพราะหากยิงมา ทุกคนก็จะรู้แล้วตำรวจก็จะแห่มาจับคนปลายสาย ทว่าปลายสายนั้นบอกว่าเขามีปืนเก็บเสียง แล้วยิงหุ่นยนต์ข้างๆ ตู้ให้สตูดู โดยที่คนรอบข้างก็ไม่มีใครสังเกตแม้แต่น้อย คราวนี้จึงเป็นเหตุที่ทำให้สตูหนีไปไหนไม่ได้ หากเป็นคุณที่เจอสถานการณ์เดียวกับสตูจะทำยังไง บอกเลยว่าเรื่องนี้สนุกและลุ้นมาก

     ภาพยนตร์ระทึกขวัญ พล็อตเรื่องเกี่ยวกับโทรศัพท์ทั้งสองเรื่องนี้ แม้จะเป็นหนังคนละประเทศ พล็อตคนละแนว แต่เพราะความไม่เหมือนใคร ทำให้สองเรื่องนี้เป็นหนังที่น่าติดตามมากๆ จนทาง Cutebix อยากนำมาแชร์ แบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้ไปลองสัมผัสประสบการณ์ นึกดูสิ หากเป็นตัวเราที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น เราจะทำยังไง?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *