ประวัติ Tommy Hilfiger
แบรนด์แฟชั่นคลาสสิค วัยรุ่นอเมริกันที่แท้ทรู
ประวัติ Tommy Hilfiger แบรนด์แฟชั่นคลาสสิค วัยรุ่นอเมริกันที่แท้ทรู เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์แฟชั่นไฮเอนด์ที่ใครๆ ก็ต้องรู้จักอีกแบรนด์ โดย Tommy Hilfiger โทมัสจาค็อบ ฮิลฟิเกอร์เป็นชาวอเมริกันแฟชั่นดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งทอมมี่ฮิลฟิเกอร์คอร์ปอเรชั่น
หลังจากเริ่มต้นอาชีพของเขาโดยการร่วมก่อตั้งร้านขายยีนส์ แฟชั่นที่เรียกว่า People’s Place ในตอนเหนือของรัฐนิวยอร์กในปี 1970 เขาเริ่มออกแบบเสื้อผ้า preppy สำหรับเสื้อผ้าบุรุษแนวบาร์ในปี 1980 บริษัท ได้ขยายตัวสู่เสื้อผ้าสตรีและสินค้าฟุ่มเฟือยมากมายเช่นน้ำหอมและออกสู่สาธารณะในปี 1992
ประวัติแบรนด์ทอมมี่ และการสะดุดตั้งแต่เริ่มๆ
ย้อนกลับไปราวๆ 30 กว่าปีก่อน นาย Thomas Jacob Hilfiger ต้องการอยากจะเป็นดีไซเนอร์ และมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง ด้วยวัยเพียง 18 ปี เขาและเพื่อนได้ลงขันเพื่อรับเสื้อผ้ามาขายจนเกิดเป็นธุรกิจเล็กๆ โดยพวกเขาใช้ชื่อร้านว่า People’s Place ด้วยผลตอบรับที่ดีเกินคาด ทําให้ Thomas สามารถขยายสาขาได้กว่า 10 สาขาในเวลาไม่นาน เขาจึงเลือกที่จะไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย และมุ่งหน้าสู่การมีธุรกิจเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง
ธุรกิจที่ดูเหมือนจะกําลังไปได้สวย แต่ก็ต้องมาสะดุดในปีที่ 7 ของการทํางาน เพราะว่างานที่มุ่งเน้นแต่เรื่องดีไซน์ แต่ขาดความรอบคอบ และเชี่ยวชาญใน การบริหารเงิน ก็ไม่อาจทําธุรกิจให้ประสบความสําเร็จได้ เมื่อร้าน People’s Place ประสบปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรง จนสุดท้าย Thomas ต้อง ร้องขอต่อศาลให้กลายเป็นบุคคลล้มละลายด้วยวัยเพียง 25 ปีจากความล้มเหลวในครั้งนี้ เขาจึงได้ค้นพบว่าการดูแลการเงิน และงานบริหารก็เป็นสิ่งที่ สําคัญต่อการดําเนินธุรกิจแฟชั่นไม่แพ้เรื่องของดีไซน์เสื้อผ้า
หลังจากล้มเหลวในธุรกิจแรก มาก็ยังคงมุ่งมั่นทํางานที่ตัวเองรัก และเหมือนโชคชะตาจะนําพาเขาให้ประสบความสําเร็จ เมื่อเขาได้พบนักธุรกิจชาว อินเดียที่ชื่อ Mohan Murjani และเสนอเงินให้ Thomas ได้มีแบรนด์เป็นของตัวเองภายใต้ชื่อ Tommy Hilfiger เพียงแค่คอลเลคชั่นแรก Tommy Hilfiger ก็สามารถประสบความสําเร็จอย่างรวดเร็ว ด้วยสไตล์เรียบง่ายที่แตกต่าง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Preppy with a twist” จนเป็นเอกลักษณ์ของ แบรนด์ที่แฝงไปด้วย ความลําลอง เรียบ เท่ มีสีสัน และสวมใส่สบาย
สไตล์ เอกลักษณ์ของแบรนด์ที่โดดเด่น ชัดเจน
ในขณะที่การออกแบบที่เก่าแก่ที่สุดของฮิลฟิเกอร์นั้นมาจากวัฒนธรรม และแฟชั่นยุคปี 1960ตั้งแต่ทศวรรษ 1980 การออกแบบของเขามักมาจากสไตล์อเมริกันนิวอิงแลนด์คลาสสิก บรรทัดแรกของเขาสำหรับทอมมี่ฮิลฟิเกอร์คอร์ปอเรชั่นได้รับการออกแบบเป็นหลักในการอุทธรณ์ไปยังชายหนุ่มมองหานักออกแบบเสื้อผ้า
ทอมมี่ฮิลฟิเกอร์กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่โดดเด่นมากที่สุดในปี 1990 กีฬากับPolo Ralph Lauren , Calvin Klein , Nautica , DKNY , และDonna Karanก็เป็นที่นิยมเช่นกัน แต่ละ บริษัท เหล่านี้สร้างตู้เสื้อผ้าที่โดดเด่นตามสไตล์ แต่สวมใส่สบายและเปลี่ยนเสื้อผ้าอเนกประสงค์ได้ทั้งหมดโดยเน้นความหรูหรา
ความไหลตามเทรนด์ แต่คงคอนเซปต์ “ความสบาย”
แฟชั่นฮิปฮอปที่มีขนาดใหญ่เริ่มใช้มาตรการยี่ห้อฮิลฟิเกอร์ในปี 1990 และเมื่อ Snoop Doggy Dogg สวมฮิลฟิเกอร์เสื้อยืดในระหว่างการปรากฏตัวในคืนวันเสาร์อยู่ก็ออกมาขายของร้านค้ามหานครนิวยอร์กในวันถัดไป นอกจากนี้ฮิลฟิเกอร์ยังดึงดูดตลาดฮิปฮอปใหม่และแร็ปเปอร์อย่างPuffyและCoolioเดินในระหว่างการแสดงของเขา
สินค้าเฉพาะอย่างเช่นกางเกงยีนส์ช่างไม้ Tommy Hilfiger เริ่มได้รับความนิยมเป็นพิเศษโดยมีโลโก้เครื่องหมายการค้าปรากฏบนวงค้อน ต้องการแหล่งที่ดีกว่า ฮิลฟิเกอร์ยังคงรักษาแฟชั่นหลายสายบางคนมุ่งความสนใจไปที่เสื้อผ้า “สบาย ๆ ” ที่สวมใส่ได้ในขณะที่คนอื่น ๆ ใช้ค่าคอมมิชชั่นชั้นสูง
ฮิลฟิเกอร์ยังได้รับอิทธิพลจากรูปแบบไอคอนอเมริกันหลากหลายรูปแบบรวมถึงเกรซเคลลี่ , เจมส์ดีน , เดโบราห์แฮร์รี่ , อิกกี้ป๊อป , ฟาราห์ฟอว์เซ็ตต์ , สตีฟแม็คควีน , แจ็กกี้และจอห์นเอฟเคนเนและแอนดี้วอร์ฮอการออกแบบของเขาหลายคนดึงจุดเด่นจากรูปแบบของฮาร์ดร็อคและอุตสาหกรรมเพลงป๊อป
การเลือกใช้พรีเซนเตอร์ให้ตอบโจทย์แบรนด์
Tommy Hilfiger ได้เปิดตัวพรีเซอร์เตอร์คนใหม่ The Chainsmokers ศิลปินดูโอ้เจ้าของรางวัลแกรมมีปีล่าสุด ในฐานะ Brand Ambrassadors เพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ผ่านความสนุกสนานvองจังหวะดนตรี ซึ่งการผสมผสานแฟชั่นกับดนตรี ถือเป็นรากฐานและสัญลักษณ์อันเก่า แก่ของเสื้อผ้าจาก Tommy Hilfiger อยู่แล้ว
แม้จะเปลี่ยนผู้ถือหุ้น แต่ Thomas Jacob Hilfiger เองยังมีบทบาทในฐานะหัวหน้าทีมออกแบบ รวมถึงเป็นตัวแทนบริษัทในการออกงานแฟชั่นโชว์ต่าง ๆ จนถึงปัจจุบัน และในช่วงปีที่ผ่านมา แบรนด์ Tommy Hilfiger ก็ถือว่าเริ่มฟื้นตัว และได้รับความสนใจในวงกว้างอีกครั้ง ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ที่ทัน สมัย แต่ยังคงเก็บรักษาเอกลักษณ์เดิมอันทรงคุณค่าไว้อย่างครบถ้วน
Tommy Hilfiger ได้เปิดตัวพรีเซอร์เตอร์คนใหม่ “The Chainsmokers ศิลปินดูโอ้เจ้าของรางวัลแกรมมีปีล่าสุด ในฐานะ Brand Ambrassadors เพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ผ่านความสนุกสนานของจังหวะดนตรี ซึ่งการผสมผสานแฟชั่นกับดนตรี ถือเป็นรากฐานและสัญลักษณ์อันเก่า แก่ของเสื้อผ้าจาก Tommy Hilfiger อยู่แล้ว
Daniel Grieder CEO ของ Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe กล่าวว่า “แนวทางการบุกเบิกแฟชั่นและดนตรีของ Tommy เป็นส่วนหนึ่ง ของวัฒนธรรมแบรนด์เสื้อผ้าบุรุษของเรา การร่วมงานกับ The Chainsmokers สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นเชิงกลยุทธ์ของบริษัท ในการดึงดูด ลูกค้ารุ่นใหม่สู่ Tommy Hilfiger ด้วยการรวบรวมแฟชั่นที่น่าตื่นเต้น ประสบการณ์การชอปปิงที่เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว และความสะดวกในการชอปปิง เสื้อผ้าบุรุษของเรายังคงเป็นจุดสนใจที่สําคัญในการปลดล็อคศักยภาพอย่างเต็มรูปแบบให้กับแบรนด์ Tommy Hilfiger ในทุกภูมิภาคทั่วโลก”
ซึ่งตัวของ Tommy Hilfiger ดูจะมั่นใจกับการเลือกใช้ The Chainsmokers มาก ถึงvนาดให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “Alex และ Drew ถือเป็นตัวอย่างของ Tommy Guy ที่สมบูรณ์แบบ เพราะทั้งคู่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว เท่ โดดเด่น เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมป๊อปในโลกดนตรีปัจจุบัน มีทั้งความ สามารก อารมร์ดี มีความคิดสร้างสรรค์ และเท์ได้แบบไม่ต้องแต่งเติมอะไรให้มากเกินไป เรียกว่าโดดเด่นในแนวทางของตัวเอง และเรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ จะได้ร่วมงานกับพวกเขาในวงการแฟชั่น”
แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกสําหรับแบรนด์ Tommy Hilfiger ในการร่วมงานกับศิลปิน นักดนตรี เพราะก่อนหน้านี้ Tommy Hilfiger ก็มีความสัมพันธ์อัน ยาวนานแน่นแฟ้นกับวงการเพลงมาเสมอ และในยุค 90 Tommy Hilfiger ได้เป็นหนึ่งในนักออกแบบรายแรก ๆ ที่ผสมผสานแฟชั่น กับดารา นักร้อง จนกลายเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมด้วยการแต่งตัวศิลปินหนุ่ม เช่น Aaliyah, Mark Ronson และ Usher อีกทั้งยังสนับสนุนทัวร์ให้กับ Britney Spears และ Lenny Kravitz หรือแม้กระทั่งเคยใช้นักดนตรีอย่าง David Bowie และ Beyoncé ในแคมเปญโฆษณามาแล้ว
ปัจจุบัน แบรนด์ทอมมี่ ก็ยังคงความเป็นแบรนด์ตัวเองไว้ และแสดงให้หลายๆ แบรนด์รู้เลยว่าการเลือกพรีเซนเตอร์ที่จะโชว์ความเป็นแบรนด์ตัวเองให้โดดเด่นนั้น ต้องเลือกคนที่มีความสื่อเป็นแบรนด์นั้นๆ ได้อย่างตอบโจทย์ แบบที่แบรนด์ทอมมี่ได้ทำมาจนถึงปัจจุบัน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.thanaplus.com